เทคนิคการกินของนักวิ่งมืออาชีพ

การเป็นนักวิ่งมืออาชีพ จำเป็นต้องกินอาหารที่มีความพิเศษเฉพาะหรือไม่?  เป็นคำถามที่นักวิ่งมักจะถามกันถึงเทคนิคการกินหรือโปรแกรมที่เกี่ยวกับอาหารของนักวิ่งชั้นยอดที่ประสบความสำเร็จ ซึ่งมีนักวิจารณ์บางคนก็พูดถึงอาหารที่เป็นมังสวิรัติ บางคนก็บอกว่าเป็นอาหารที่ต้องมีคาร์โบไฮเดรตต่ำ หรืออีกหลากหลายลักษณะการกิน แต่ใครจะรู้ว่า มีนักวิ่งมืออาชีพเพียงไม่กี่คนที่มีโปรแกรมการรับประทานอาหารที่จัดว่ามีความพิเศษเฉพาะ

สำหรับนักวิ่งมือสมัครเล่น อาจจะได้รับคำชี้นำให้รับประทานอาหารในแบบพิเศษ เนื่องจากนักวิ่งมือสมัครเล่นยังไม่เคยชนะการแข่งขัน หรือยังไม่เคยทำลายสถิติ จึงเป็นช่องทางที่ทำให้ถูกชักนำให้เชื่อเกี่ยวกับอาหารที่จะทำให้ชนะในการวิ่ง เช่น การบอกให้กินเพียงอาหารที่เป็นธัญพืช นักวิ่งไม่ควรกินเนื้อสัตว์ หรืออาหารบางชนิดเมื่อกินแล้วจะทำให้เรามีแรงวิ่งเพิ่มขึ้น ซึ่งนักวิ่งหน้าใหม่ก็มีแนวโน้มที่จะเชื่อข้อมูลเหล่านี้ด้วย

หรืออีกความเชื่อหนึ่งของนักวิ่งมือสมัครเล่นก็คือ กินอาหารตามแบบนักวิ่งมืออาชีพ เพราะเหมือนเราชื่นชมนักวิ่งมืออาชีพคนใดสักคนหนึ่ง เราก็อยากทำตามเขาทั้งในเรื่องการฝึกฝนประสบการณ์ในเรื่องการวิ่ง รวมทั้งการกินอาหารของเขาด้วย แต่บางครั้งก็ลืมไปว่า นักวิ่งที่ประสบความสำเร็จแต่ละคนนั้นก็มีลักษณะการกินอาหารที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงไม่สามารถนำรูปแบบของการกินอาหารของนักวิ่งคนใดคนหนึ่งมาเป็นแบบแผนในการกินอาหารของนักวิ่งแต่ละคนได้ แต่อย่างไรก็ดีบรรดานักวิ่งมืออาชีพก็ได้แบ่งปันนิสัยการบริโภคอาหาร 5 ข้อ ที่เป็นแนวทางปฏิบัติในการรับประทานอาหารให้กับนักวิ่งที่อยากเป็นนักวิ่งมืออาชีพไว้ดังนี้

 5 เทคนิคการกินของนักวิ่งชั้นยอด

1.กินทุกอย่าง

อาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกายนั้นมีหลากหลายประเภท คือ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ ผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนม สำหรับนักวิ่งมืออาชีพส่วนใหญ่ก็จะมีอาหารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายทุกอย่างอยู่ในมื้ออาหารของพวกเขา เพราะถ้าหากนักวิ่งที่จำกัดการกินให้มีแค่อาหารประเภทใดประเภทหนึ่ง ก็อาจส่งผลกระทบต่อร่างกายได้ เช่น นักวิ่งที่ไม่กินเนื้อสัตว์มีแนวโน้มที่จะเป็นโรคโลหิตจางจากการขาดธาตุเหล็ก หรือนักวิ่งที่ไม่กินธัญพืชก็มักมีอาการอ่อนเพลียเรื้อรัง เป็นต้น

2.กินที่มีคุณภาพ

นอกจากอาหารหลัก 5 หมู่แล้ว ก็มีอาหารที่คุณภาพด้อยลงมา อย่างเช่น ขนมหวาน เนื้อสัตว์แปรรูปและอาหารทอด สำหรับนักกีฬาวิ่งมืออาชีพนั้น พวกเขาจะพยายามกินอาหารเหล่านี้ให้น้อยที่สุด ตามแนวคิดที่ว่าไม่จำเป็นต้องจำกัดอาหารที่กิน แต่ต้องกินอาหารที่มีคุณภาพ

3.กินคาร์โบไฮเดรต

ในขณะที่นักวิ่งเป็นงานอดิเรกนั้นไม่ต้องกังวลเรื่องการกินอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรต แต่นักวิ่งระดับมืออาชีพนั้นจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะคาร์โบไฮเดรตนั้นเป็นแหล่งพลังงานชั้นยอด เพราะคาร์โบไฮเดรตจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้นักวิ่งสามารถวิ่งได้นานขึ้น

4.กินให้พอ

นักวิ่งมืออาชีพจะกินอาหารในแต่ละมื้อให้เพียงพอ โดยที่ไม่กินมากหรือน้อยเกินไป เพราะถ้าหากกินน้อยเกินไป จะทำให้ร่างกายเก็บไขมันส่วนเกินเอาไว้ ในทางตรงกันข้ามถ้าหากกินน้อยเกินไป ก็จะทำให้เกิดอาการหิวขึ้นมาได้

5.กินในแบบเฉพาะตัว

นักวิ่งแต่ละคนจะมีเอกลักษณ์ในการสร้างนิสัยและความต้องการไม่เหมือนกัน ปริมาณหรือชนิดอาหารจะแตกต่างกัน ทุกอย่างนั้นเป็นเรื่องของความต้องการส่วนบุคคล แต่นักวิ่งมืออาชีพทุกคนก็ล้วนกินอาหารที่มีประโยชน์

เมื่อการกินเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างพลังงานให้แก่นักวิ่ง การกินที่ถูกต้องและเหมาะสมกับกายภาพส่วนบุคคลของนักวิ่งแต่ละคน จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องใส่ใจให้มาก ไม่เช่นนั้นแล้วการวิ่งโดยที่ไม่ได้ทานอาหารให้เหมาะสมหรือมีความพร้อมเพียงพอ อาจเกิดโทษได้มากกว่าที่จะเกิดประโยชน์ได้